Last updated: 1 ก.ค. 2568 | 7 จำนวนผู้เข้าชม |
บทความ: มาตรฐาน AHRI 550/590 – มาตรฐานสมรรถนะเครื่องทำน้ำเย็น
ดร.ศุภชัย ปัญญาวีร์ อ. ปฏิญญา จีระพรมงคล อ. อภิวัฒน์ ปิดตะ
บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ คอนเซอร์เวชั่น เทคโนโลยี่ จำกัด
ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2568
AHRI 550/590 เป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดโดย Air-Conditioning, Heating, and Refrigeration Institute (AHRI) ซึ่งใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบและรับรองสมรรถนะของ เครื่องทำน้ำเย็น (Chiller) มาตรฐานนี้ครอบคลุมการตรวจวัดสมรรถนะและการรายงานผล เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องทำน้ำเย็นสามารถทำงานได้ตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้ และช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์ของมาตรฐาน AHRI 550/590
1. รับรองสมรรถนะของเครื่องทำน้ำเย็น:
o เพื่อให้ผู้ผลิตและผู้ใช้งานมั่นใจว่าเครื่องทำน้ำเย็นสามารถทำงานได้ตามค่าที่ระบุ
2. กำหนดมาตรฐานการวัดที่ชัดเจน:
o ระบุวิธีการตรวจวัดและการคำนวณสมรรถนะของเครื่องทำน้ำเย็นอย่างเป็นระบบ
3. สนับสนุนการประหยัดพลังงาน:
o ช่วยให้ผู้ใช้งานเลือกเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อลดการใช้พลังงาน
4. สร้างความเป็นธรรมในตลาด:
o ให้ข้อมูลที่โปร่งใสและเปรียบเทียบได้ระหว่างผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตต่าง ๆ
ขอบเขตของมาตรฐาน AHRI 550/590
มาตรฐานนี้ครอบคลุม เครื่องทำน้ำเย็นที่ใช้ในระบบปรับอากาศ และรวมถึง:
ชนิดเครื่อง:
o เครื่องทำน้ำเย็นแบบอัดไอ (Vapor Compression Chiller)
o เครื่องทำน้ำเย็นแบบดูดซึม (Absorption Chiller)
การใช้งาน:
o สำหรับระบบทำความเย็นในอาคารสำนักงาน โรงแรม โรงพยาบาล และอุตสาหกรรม
พารามิเตอร์ที่วัด:
o ความสามารถในการทำความเย็น (Cooling Capacity)
o การใช้กำลังไฟฟ้า (Power Input)
o ประสิทธิภาพพลังงาน (Coefficient of Performance - COP และ IPLV)
ข้อกำหนดสำคัญใน AHRI 550/590
1. การทดสอบสมรรถนะ
o Full Load Efficiency (ประสิทธิภาพโหลดเต็ม):
การวัดสมรรถนะเมื่อเครื่องทำงานที่ความสามารถสูงสุด
COP = Cooling Capacity (kW) / Power Input (kW)
o Part Load Efficiency (ประสิทธิภาพโหลดบางส่วน):
การวัดสมรรถนะเมื่อเครื่องทำงานในสภาวะโหลดบางส่วน
2. ค่าประสิทธิภาพ IPLV (Integrated Part Load Value)
o เป็นตัวชี้วัดที่รวมประสิทธิภาพของเครื่องในสภาวะโหลดต่าง ๆ
IPLV = 0.01A + 0.42B + 0.45C + 0.12D
โดยที่ A, B, C, และ D เป็นค่าประสิทธิภาพในสภาวะโหลดต่าง ๆ
3. การตรวจวัดเงื่อนไขการใช้งาน
o อุณหภูมิของน้ำเย็นเข้าและออกจากเครื่องทำน้ำเย็น
o อัตราการไหลของน้ำเย็นเข้าและออกจากเครื่องทำน้ำเย็น
4. การรายงานสมรรถนะ
o ผู้ผลิตต้องระบุข้อมูลประสิทธิภาพและความสามารถในการทำความเย็นของเครื่องทำน้ำเย็นภายใต้เงื่อนไขการใช้งานที่กำหนด
ขั้นตอนการตรวจสอบตาม AHRI 550/590
1. การตั้งค่าการทดสอบ:
o กำหนดอุณหภูมิของน้ำเข้าและออก และอัตราการไหลของน้ำ
2. การเก็บข้อมูล:
o วัดความสามารถในการทำความเย็นและการใช้กำลังไฟฟ้า
3. การคำนวณสมรรถนะ:
o คำนวณ COP, IPLV และค่าประสิทธิภาพอื่น ๆ
4. การตรวจสอบและเปรียบเทียบ:
o เปรียบเทียบค่าที่วัดได้กับค่าที่กำหนดในเอกสารของผู้ผลิต
5. การรายงานผล:
o รายงานผลการทดสอบในรูปแบบที่สอดคล้องกับมาตรฐาน
ประโยชน์ของ AHRI 550/590
1. เพิ่มความน่าเชื่อถือของเครื่องทำน้ำเย็น:
o ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าเครื่องทำน้ำเย็นผ่านการทดสอบและมีสมรรถนะตามที่ระบุ
2. สนับสนุนการประหยัดพลังงาน:
o ช่วยเลือกเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน
3. เพิ่มความโปร่งใสในตลาด:
o ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างเครื่องทำน้ำเย็นจากผู้ผลิตต่าง ๆ
4. สนับสนุนการออกแบบระบบ:
o วิศวกรสามารถเลือกเครื่องทำน้ำเย็นที่เหมาะสมกับระบบและเงื่อนไขการใช้งาน
5. ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม:
o ประสิทธิภาพที่สูงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ตัวอย่างการใช้งาน AHRI 550/590
กรณีศึกษา:
o ติดตั้งเครื่องทำน้ำเย็นที่ผ่านการรับรอง AHRI 550/590
o ผลลัพธ์: ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึง 15% และลดค่าไฟฟ้าได้กว่า 500,000 บาทต่อปี
o ใช้ AHRI 550/590 เป็นเกณฑ์ในการเลือกเครื่องทำน้ำเย็นสำหรับระบบ HVAC
o ผลลัพธ์: ลดการปล่อยก๊าซ CO2 และเพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบปรับอากาศ
สรุป
AHRI 550/590 เป็นมาตรฐานสำคัญที่ช่วยให้การตรวจวัดและรายงานสมรรถนะเครื่องทำน้ำเย็นมีความแม่นยำและโปร่งใส การปฏิบัติตามมาตรฐานนี้ช่วยให้ผู้ผลิตและผู้ใช้งานมั่นใจว่าเครื่องทำน้ำเย็นทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน และสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระบบปรับอากาศและทำความเย็น
26 มิ.ย. 2568