เคล็ดลับปฏิบัติการประหยัดพลังงานสำหรับมอเตอร์ให้ได้ผลเป็นรูปธรรม

      เคล็ดลับปฏิบัติการประหยัดพลังงานสำหรับมอเตอร์ให้ได้ผลเป็นรูปธรรม

      สถานประกอบการส่วนใหญ่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่าร้อยละ 90 ในการขับเคลื่อนอุปกรณ์หลักด้านพลังงานไฟฟ้า เช่น เครื่องอัดอากาศ คอมเพรสเซอร์ของระบบปรับอากาศหรือระบทำความเย็น เครื่องสูบน้ำ   พัดลมระบบอากาศ หรือพัดลมระบายความร้อน เครื่องอัดของเหลว ระบบดูดสุญญากาศ และมอเตอร์ขับเครื่องจักรกลในกระบวนการผลิต เป็นต้น โดยทั่วไปมอเตอร์จะมีประสิทธิภาพลดลงตามอายุการใช้งาน สภาพการบำรุงรักษา และการรับภาระ (Load) ต่ำกว่าพิกัดมากกว่า 70%  ดังนั้นสถานประกอบการควรตรวจวัดภาระการทำงานของมอเตอร์ เพื่อสลับการใช้งานให้เหมาะสมกับภาระ  นอกจากนั้นการที่มอเตอร์ไหม้แต่ละครั้งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลงประมาณ 2-4% อีกทั้งการเปิดใช้งานโดยไม่เกิดประโยชน์ (Idle Time)  จะส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากกว่าร้อยละ 30%  ดังนั้นแนวทางการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าที่ง่ายที่สุดนั้น สามารถดำเนินการได้โดยการฝึกอบรมพนักงานและเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ใช้ และผู้ดูแลการใช้งานให้ทราบเทคนิคการอนุรักษ์พลังงานและระดมสมองจากทุกคนในองค์กร เพื่อหาแนวทางการประหยัดพลังงานที่เหมาะสมกับองค์กร ในการฝึกอบรมมีสื่อการฝึกอบรมภาคทฤษฎีและการฝึกอบรมภาคปฏิบัติซึ่งจะทำให้สถานประกอบการได้รับแนวทางการอนุรักษ์พลังงานที่เป็นรูปธรรมจากการสำรวจตรวจวัดร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญที่เป็นวิทยากร รวมทั้งสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้มอเตอร์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

      วัตถุประสงค์การฝึกอบรม

• สถานประกอบการสามารถนำแนวทางการอนุรักษ์พลังงานและกรณีตัวอย่าง รวมทั้งมาตรการอนุรักษ์พลังงานจากกิจกรรมระดมสมองไปจัดทำแผน เพื่อดำเนินการอนุรักษ์พลังงานให้เกิดเป็นรูปธรรม
• สถานประกอบการสามารถดำเนินการตรวจวัดภาระของมอเตอร์ได้ด้วยตัวเอง
• สถานประกอบการสามารถบริหารจัดการใช้  การบำรุงรักษา และปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
• สถานประกอบการได้รับคู่มือการฝึกอบรม และโปรแกรม Microsoft Excel เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และจัดทำมาตรการอนุรักษ์พลังงาน
• สถานประกอบการได้รับผลการอนุรักษ์พลังงานมากกว่าค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกอบรมบุคลากร

      กลุ่มเป้าหมาย

• วิศวกร
• หัวหน้างาน
• ช่างเทคนิค