เทคโนโลยีการประหยัดพลังงานโดยการเพิ่มผลผลิต (Energy Efficiency through Productivity Improvement)

Last updated: 26 มิ.ย. 2568  |  14 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เทคโนโลยีการประหยัดพลังงานโดยการเพิ่มผลผลิต (Energy Efficiency through Productivity Improvement)

เทคโนโลยีการประหยัดพลังงานโดยการเพิ่มผลผลิต (Energy Efficiency through Productivity Improvement)

ดร.ศุภชัย  ปัญญาวีร์   อ. มนูญ  รุ่งเรือง   อ. เกียรติศักดิ์  วงษ์ขันธ์

บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ คอนเซอร์เวชั่น เทคโนโลยี่ จำกัด

ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2568
                                                                                                                                                               

บทนำ

หลายองค์กรเข้าใจผิดว่าการประหยัดพลังงานต้องทำผ่านการลดการใช้งานอุปกรณ์หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว "การเพิ่มผลผลิต (Productivity)" โดยไม่เพิ่มพลังงานที่ใช้ ก็ถือเป็นการประหยัดพลังงานในรูปแบบหนึ่งที่ทรงพลังมาก

แนวคิดคือ: ใช้พลังงานเท่าเดิม แต่ได้ผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น → ค่าใช้จ่ายต่อหน่วยลดลง → ประหยัดพลังงานต่อหน่วยผลิต

  • นิยามง่าย ๆ ของการประหยัดพลังงานโดยเพิ่มผลผลิต
      พลังงานเฉพาะต่อหน่วยผลิต (Specific Energy Consumption) = พลังงานที่ใช้ทั้งหมด ÷ ปริมาณผลผลิต


       o หากเราสามารถเพิ่มผลผลิตโดยไม่เพิ่มพลังงาน → ค่าเฉลี่ยพลังงานต่อหน่วยลดลง → ถือว่า “ประหยัดพลังงาน”

เทคโนโลยี/แนวทางที่ช่วยเพิ่มผลผลิตและลดการใช้พลังงาน
     1. การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต (Process Optimization)
           o    ปรับเส้นทางการไหลของวัสดุ ลดการหยุดเครื่อง
           o    ปรับเวลาอุ่นเครื่อง อุณหภูมิ ความเร็ว ให้เหมาะสม
           o    ใช้ Lean Manufacturing หรือ Kaizen
           o    ลดเวลาเครื่อง Idle / ลดความสูญเปล่า
           o    ผลิตได้มากขึ้นในเวลาที่เท่าเดิม

     2. การใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติและ AI (Automation & AI)
           o    ใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อควบคุมปัจจัย เช่น อุณหภูมิ ความดัน ความเร็วรอบ
           o    ใช้ PLC, SCADA, DCS
           o    ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มความผิดพลาด
           o    ลดของเสีย (Defect)
           o    ลดการ Rework → ประหยัดพลังงานในงานที่ไม่จำเป็น

     3. Predictive Maintenance (การซ่อมบำรุงเชิงพยากรณ์)
           o    ใช้เซ็นเซอร์ตรวจสอบสุขภาพของเครื่องจักร เช่น Vibration, Heat, Current
           o    ซ่อมก่อนเสียจริง
           o    ป้องกันการหยุดไลน์ผลิตกะทันหัน
           o    เพิ่มอัตราการเดินเครื่องต่อเนื่อง (Availability)
           o    ลดการสตาร์ทเครื่องใหม่ที่กินพลังงาน

     4. การเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักร (Machine Productivity Upgrade)
           o    เปลี่ยนมอเตอร์เป็นรุ่นประหยัดพลังงาน
           o    ติด VFD (Inverter)
           o    ใช้หัวฉีด / ชุดความร้อน / เตา ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม
           o    ใช้พลังงานต่อรอบลดลง
           o    ได้ผลผลิตมากขึ้นในเวลาเท่าเดิม

     5. การวิเคราะห์และลดของเสียในกระบวนการผลิต (Waste Reduction)
           o    วิเคราะห์จุดที่ทำให้เกิดของเสีย (Yield Loss, Scrap)
           o    ใช้ Root Cause Analysis (RCA)
           o    ปรับกระบวนการให้นิ่งและแม่นยำ
           o    ลด Defect = ไม่ต้องใช้พลังงานซ้ำ
           o    ลดจำนวนรอบการผลิตต่อหน่วย

      6. ใช้ระบบวัดผลผลิตแบบ Real-Time (OEE Monitoring)
           o    วัด OEE = Availability × Performance × Quality
           o    ระบุจุดคอขวด
           o    ติดตามหน่วยผลิตและพลังงานที่ใช้ต่อรอบ
           o    วางแผนปรับปรุงเพื่อเพิ่ม Productivity ได้ตรงจุด

  • ตัวอย่างการประหยัดพลังงานผ่านการเพิ่มผลผลิต

 

  • ผลลัพธ์ที่ได้รับ
         o    ลดพลังงานเฉลี่ยต่อหน่วย
         o    ลดต้นทุนพลังงานโดยไม่ต้องลงทุนสูง
         o    เพิ่มประสิทธิภาพและกำลังการผลิต
         o    เสริมศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจ
         o    สนับสนุนการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์

  • สรุป

           การประหยัดพลังงานโดยการเพิ่มผลผลิต เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในการดำเนินการ เพราะไม่จำเป็นต้องลงทุนด้านพลังงานโดยตรง แต่ได้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม

         o    เหมาะสำหรับทุกธุรกิจที่ต้องการ
         o    เพิ่มกำไร
         o    ลดต้นทุน
         o    เดินหน้าไปสู่ “Green Industry” และ “Net Zero Carbon”

 

อ่านต่อได้ที่นี่

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้