Last updated: 27 มิ.ย. 2568 | 16 จำนวนผู้เข้าชม |
เทคโนโลยีการประหยัดพลังงานในระบบทำความเย็นอุตสาหกรรม (Energy Saving Technologies in Industrial Refrigeration Systems)
ดร.ศุภชัย ปัญญาวีร์ อ. มนูญ รุ่งเรือง อ. เกียรติศักดิ์ วงษ์ขันธ์
บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ คอนเซอร์เวชั่น เทคโนโลยี่ จำกัด
ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2568
การใช้เทคโนโลยีและแนวทางอนุรักษ์พลังงานในระบบทำความเย็น ช่วยลดต้นทุนพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้อย่างมีนัยสำคัญ
1. คอมเพรสเซอร์ (Compressor)
2. คอนเดนเซอร์ (Condenser)
3. อีวาพอเรเตอร์ (Evaporator)
4. สารทำความเย็น (Refrigerant)
5. ปั๊มน้ำ / ปั๊มน้ำยา / พัดลม / มอเตอร์
6. Cooling Tower หรือระบบระบายความร้อน
เทคโนโลยีประหยัดพลังงานในระบบทำความเย็นอุตสาหกรรม
1. การใช้ Variable Speed Drive (VSD / VFD)
ควบคุมความเร็วรอบของ
o คอมเพรสเซอร์
o พัดลมคอนเดนเซอร์
o ปั๊มน้ำหล่อเย็น
o ช่วยลดการใช้พลังงานเมื่อโหลดความเย็นต่ำ หรือไม่เต็ม 100%
o ประหยัดพลังงานได้ 15–30%
2. ระบบควบคุมความดันและอุณหภูมิอัจฉริยะ (Smart Controls & Optimization)
ใช้ระบบควบคุมแบบ Real-Time AI หรือ PLC เพื่อตั้งค่าและควบคุม
o Suction Pressure
o Discharge Pressure
o Superheat / Subcool
o ควบคุมการทำงานให้ใกล้เคียงภาวะ ประสิทธิภาพสูงสุด (Best COP)
3. การใช้ระบบ Heat Recovery
รับความร้อนทิ้งจากคอมเพรสเซอร์ / คอนเดนเซอร์
o ใช้อุ่นน้ำหรือให้ความร้อนในกระบวนการอื่น
o ลดการใช้พลังงานจากหม้อไอน้ำหรือฮีตเตอร์
o ประหยัดพลังงานโดยรวมได้ 10–20%
4. ใช้สารทำความเย็นประสิทธิภาพสูง (High Efficiency Refrigerants)
เปลี่ยนไปใช้สารทำความเย็นที่มี
o Global Warming Potential (GWP) ต่ำ
o COP สูงกว่าเดิม เช่น R-1234yf, R-717 (แอมโมเนีย), CO₂
o ลดภาระคอมเพรสเซอร์
o สนับสนุนมาตรฐานสิ่งแวดล้อม เช่น F-Gas Regulation
5. ใช้ Pressure Independent Control Valves (PICV / PIBCV)
ควบคุมการไหลของน้ำเย็นอย่างแม่นยำ แม้แรงดันเปลี่ยน
o ปรับโหลดได้รวดเร็ว
o ลดการสูญเสียพลังงานในระบบท่อ
6. ปรับตั้งค่า Set Point และ Superheat/Subcool ให้เหมาะสม
o การลด Discharge Pressure 1°C สามารถลดพลังงานได้ ~2%
o การตั้ง Suction Pressure ให้เหมาะสม ช่วยให้คอมเพรสเซอร์ทำงานสบายขึ้น
7. การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)
ตรวจสอบ
o แผงคอนเดนเซอร์ไม่อุดตัน
o เช็ครอยรั่วสารทำความเย็น
o ตรวจวัด COP และค่าพลังงานต่อโหลด
o ช่วยให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
8. ใช้ระบบอัตโนมัติในการสลับเครื่องทำความเย็น (Chiller Sequencing Control)
o ช่วยเลือกเครื่องทำงานตามโหลด เพื่อหลีกเลี่ยง Overcapacity
o ลดการใช้พลังงานในช่วงโหลดต่ำ
ลงทุนหนึ่งครั้ง ประหยัดพลังงานได้ตลอดอายุการใช้งาน และยังช่วยให้องค์กรมุ่งสู่เป้าหมาย Green Industry และ Net Zero Carbon ได้อย่างเป็นรูปธรรม
26 มิ.ย. 2568