เทคโนโลยีการประหยัดพลังงานในระบบทำความเย็นอุตสาหกรรม (Energy Saving Technologies in Industrial Refrigeration Systems)

Last updated: 27 มิ.ย. 2568  |  14 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เทคโนโลยีการประหยัดพลังงานในระบบทำความเย็นอุตสาหกรรม (Energy Saving Technologies in Industrial Refrigeration Systems)

เทคโนโลยีการประหยัดพลังงานในระบบทำความเย็นอุตสาหกรรม (Energy Saving Technologies in Industrial Refrigeration Systems)

ดร.ศุภชัย  ปัญญาวีร์  อ. มนูญ  รุ่งเรือง  อ. เกียรติศักดิ์  วงษ์ขันธ์  

บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ คอนเซอร์เวชั่น เทคโนโลยี่ จำกัด

ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2568

                                                                                                                                                               

บทนำ

ระบบทำความเย็นอุตสาหกรรม (Industrial Refrigeration) เป็นหนึ่งในระบบที่ใช้พลังงานมากที่สุดในโรงงาน เช่น
  • โรงงานอาหารและเครื่องดื่ม
  • โรงแช่แข็ง / ห้องเย็น
  • อุตสาหกรรมยา
  • โรงงานเคมีและปิโตรเคมี

 

การใช้เทคโนโลยีและแนวทางอนุรักษ์พลังงานในระบบทำความเย็น ช่วยลดต้นทุนพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้อย่างมีนัยสำคัญ

  • องค์ประกอบหลักของระบบทำความเย็นอุตสาหกรรม

         1.   คอมเพรสเซอร์ (Compressor)
         2.   คอนเดนเซอร์ (Condenser)
         3.   อีวาพอเรเตอร์ (Evaporator)
         4.   สารทำความเย็น (Refrigerant)
         5.   ปั๊มน้ำ / ปั๊มน้ำยา / พัดลม / มอเตอร์
         6.   Cooling Tower หรือระบบระบายความร้อน

เทคโนโลยีประหยัดพลังงานในระบบทำความเย็นอุตสาหกรรม

        1. การใช้ Variable Speed Drive (VSD / VFD)
          ควบคุมความเร็วรอบของ
                o  คอมเพรสเซอร์
                o  พัดลมคอนเดนเซอร์
                o  ปั๊มน้ำหล่อเย็น
                o  ช่วยลดการใช้พลังงานเมื่อโหลดความเย็นต่ำ หรือไม่เต็ม 100%
                o  ประหยัดพลังงานได้ 15–30%

        2. ระบบควบคุมความดันและอุณหภูมิอัจฉริยะ (Smart Controls & Optimization)
           ใช้ระบบควบคุมแบบ Real-Time AI หรือ PLC เพื่อตั้งค่าและควบคุม
                o  Suction Pressure
                o  Discharge Pressure
                o  Superheat / Subcool
                o  ควบคุมการทำงานให้ใกล้เคียงภาวะ ประสิทธิภาพสูงสุด (Best COP)

        3. การใช้ระบบ Heat Recovery
           รับความร้อนทิ้งจากคอมเพรสเซอร์ / คอนเดนเซอร์
                o  ใช้อุ่นน้ำหรือให้ความร้อนในกระบวนการอื่น
                o  ลดการใช้พลังงานจากหม้อไอน้ำหรือฮีตเตอร์
                o  ประหยัดพลังงานโดยรวมได้ 10–20%

        4. ใช้สารทำความเย็นประสิทธิภาพสูง (High Efficiency Refrigerants)
           เปลี่ยนไปใช้สารทำความเย็นที่มี
                o  Global Warming Potential (GWP) ต่ำ
                o  COP สูงกว่าเดิม เช่น R-1234yf, R-717 (แอมโมเนีย), CO₂
                o  ลดภาระคอมเพรสเซอร์
                o  สนับสนุนมาตรฐานสิ่งแวดล้อม เช่น F-Gas Regulation

        5. ใช้ Pressure Independent Control Valves (PICV / PIBCV)
           ควบคุมการไหลของน้ำเย็นอย่างแม่นยำ แม้แรงดันเปลี่ยน
                o  ปรับโหลดได้รวดเร็ว
                o  ลดการสูญเสียพลังงานในระบบท่อ

       6. ปรับตั้งค่า Set Point และ Superheat/Subcool ให้เหมาะสม
                o  การลด Discharge Pressure 1°C สามารถลดพลังงานได้ ~2%
                o  การตั้ง Suction Pressure ให้เหมาะสม ช่วยให้คอมเพรสเซอร์ทำงานสบายขึ้น

       7. การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)
          ตรวจสอบ
               o  แผงคอนเดนเซอร์ไม่อุดตัน
               o  เช็ครอยรั่วสารทำความเย็น
               o  ตรวจวัด COP และค่าพลังงานต่อโหลด
               o  ช่วยให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

       8. ใช้ระบบอัตโนมัติในการสลับเครื่องทำความเย็น (Chiller Sequencing Control)

               o  ช่วยเลือกเครื่องทำงานตามโหลด เพื่อหลีกเลี่ยง Overcapacity
               o  ลดการใช้พลังงานในช่วงโหลดต่ำ

  • ประโยชน์จากการประหยัดพลังงาน



  • ผลลัพธ์จากการปรับปรุงระบบ
  • ลดค่าไฟฟ้าระบบทำความเย็น 6–7 หลักต่อปี
  • เพิ่มอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์
  • ลด Carbon Footprint ของโรงงาน
  • รองรับมาตรฐานพลังงาน เช่น ISO 50001, LEED

  • สรุป
       การประหยัดพลังงานในระบบทำความเย็นอุตสาหกรรมสามารถทำได้ทั้งในด้าน
  • การปรับปรุงเครื่องจักร
  • การควบคุมระบบอัจฉริยะ
  • การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
  • และการใช้พลังงานหมุนเวียนร่วมกับ Heat Recovery

      ลงทุนหนึ่งครั้ง ประหยัดพลังงานได้ตลอดอายุการใช้งาน และยังช่วยให้องค์กรมุ่งสู่เป้าหมาย Green Industry และ Net Zero Carbon ได้อย่างเป็นรูปธรรม

อ่านต่อได้ที่นี่

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้