เทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพระบบอบแห้งผลไม้ (Drying Efficiency Technologies for Fruit Processing)

Last updated: 28 มิ.ย. 2568  |  9 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพระบบอบแห้งผลไม้ (Drying Efficiency Technologies for Fruit Processing)

เทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพระบบอบแห้งผลไม้ (Drying Efficiency Technologies for Fruit Processing)

ดร.ศุภชัย  ปัญญาวีร์  อ. กิตติพงษ์  กุลมาตย์  อ.มนูญ  รุ่งเรือง

บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ คอนเซอร์เวชั่น เทคโนโลยี่ จำกัด

ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2568

                                                                                                                                                               
บทนำ

การอบแห้งผลไม้ เช่น มะม่วง กล้วย ทุเรียน ลำไย หรือสับปะรด เป็นกระบวนการสำคัญในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา รักษาคุณภาพรสชาติ และเพิ่มมูลค่าสินค้า

ระบบอบแห้งแบบดั้งเดิมมักใช้ พลังงานสูง ใช้เวลานาน และทำให้คุณภาพสินค้าไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นการนำเทคโนโลยีมาเพิ่ม “ประสิทธิภาพ” จึงช่วยให้ได้ผลผลิตที่ดีขึ้น ประหยัดพลังงาน และลดต้นทุนได้อย่างชัดเจน

  • เป้าหมายของการเพิ่มประสิทธิภาพระบบอบแห้งผลไม้
         1.  ลดเวลาในการอบ
         2.  ลดการใช้พลังงานต่อกิโลกรัมผลผลิต
         3.  คงรสชาติ สี กลิ่น และเนื้อสัมผัสของผลไม้
         4.  เพิ่มความสม่ำเสมอของการอบแห้งในทุกถาด/รอบ
         5.  เพิ่มปริมาณการผลิตต่อรอบ/ต่อวัน

  • เทคโนโลยีสำคัญที่ใช้เพิ่มประสิทธิภาพการอบแห้งผลไม้
          1. ระบบอบแห้งแบบปั๊มความร้อน (Heat Pump Dryer)
            ใช้พลังงานไฟฟ้าในการดูดซับความร้อนจากอากาศ แล้วนำมาใช้ในการอบแห้ง
                o  อุณหภูมิคงที่ (45–65°C) เหมาะกับผลไม้
                o  ความชื้นสัมพัทธ์ถูกควบคุมอย่างแม่นยำ
                o  ประหยัดพลังงานได้ 30–50%
                o  สี รสชาติ และคุณค่าวิตามินคงอยู่ดีมาก
                o  คืนทุนใน 2–3 ปี

          2. ระบบควบคุมความชื้นอัจฉริยะ (Smart Humidity Control)
             ติดตั้งเซนเซอร์วัดความชื้นของอากาศและผลไม้แบบ Real-Time
                o  ปรับอุณหภูมิ/ลมร้อนอัตโนมัติตามสภาวะจริง
                o  ลด Overdrying และพลังงานสูญเปล่า
                o  เพิ่มคุณภาพสินค้า
                o  ลดพลังงาน 10–20%

          3. ระบบเป่าลมหมุนเวียน (Air Recirculation System)
            ใช้อากาศร้อนเดิมในเครื่องอบวนกลับมาใช้ซ้ำ
                o  ลดการใช้เชื้อเพลิงหรือไฟฟ้า
                o  เหมาะกับผลไม้ที่ปล่อยความชื้นไม่มาก
                o  ลดการสูญเสียความร้อน
                o  ประหยัดพลังงานอีก 10–25%

          4. ฉนวนกันความร้อนประสิทธิภาพสูง (High Efficiency Insulation)
             ใช้วัสดุฉนวน เช่น PU Foam, Rock Wool หรือ VIP Panels
                o  ลดการสูญเสียความร้อนจากผนังและฝาอบ
                o  คงอุณหภูมิภายในเครื่องอบได้ดี
                o  ลดโหลดฮีตเตอร์ 5–10%

          5. การอบแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Drying)
             แบ่งกระบวนการอบเป็นหลายช่วง เช่น
                o  ช่วงแรก: อุณหภูมิสูงไล่น้ำ
                o  ช่วงสอง: อุณหภูมิต่ำเก็บคุณภาพ
                o  เพิ่มประสิทธิภาพการระเหย
                o  ป้องกันการไหม้ / ผิวแข็งแต่ในยังชื้น

          6. การอบด้วยคลื่นไมโครเวฟ/อินฟราเรด (Hybrid Drying)
             ใช้ไมโครเวฟช่วยระเหยน้ำจากแกนในผลไม้ก่อน แล้วใช้ลมร้อนต่อ
                o  ทำให้แห้งเร็ว ลดความชื้นทั่วถึง
                o  ประหยัดเวลาอบ 30–50%
                o  ควบคุมคุณภาพสินค้าได้ดีเยี่ยม

  • ประโยชน์ที่ได้รับ


  • สรุป

       การเพิ่มประสิทธิภาพระบบอบแห้งผลไม้ไม่จำเป็นต้องลงทุนใหม่ทั้งหมด เพียงปรับปรุงกระบวนการ และเพิ่มเทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่น Heat Pump, Sensor, Air Recirculation และ Smart Control ก็สามารถ


  • เพิ่มคุณภาพผลผลิต
  • ลดต้นทุนพลังงาน
  • เพิ่มกำไร และยกระดับมาตรฐานโรงงาน

 

อ่านต่อได้ที่นี่



 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้