Last updated: 1 ก.ค. 2568 | 6 จำนวนผู้เข้าชม |
บทความ แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกในภาคครัวเรือนและเกษตรกรรม ภายใต้แผน AEDP 2018
ดร.ศุภชัย ปัญญาวีร์ อ. กิตติพงษ์ กุลมาตย์ อ. มนูญ รุ่งเรือง
บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ คอนเซอร์เวชั่น เทคโนโลยี่ จำกัด
ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2568
แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2561-2580 (Alternative Energy Development Plan AEDP 2018) เป็นกรอบยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศไทยที่มุ่งส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือก เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยให้ความสำคัญกับภาคครัวเรือนและเกษตรกรรมในฐานะกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้พลังงานทดแทนในระดับท้องถิ่น
เป้าหมายของแผน AEDP 2018
1. เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน
ตั้งเป้าให้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกมีสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30% ของการใช้พลังงานขั้นสุดท้าย ภายในปี 2580
2. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
สนับสนุนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมโดยลดการปล่อย CO2 จากการใช้พลังงาน
3. สร้างความมั่นคงด้านพลังงานในชุมชน
ส่งเสริมการพึ่งพาพลังงานที่ผลิตได้ในระดับท้องถิ่น
4. สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
นำของเสียและวัสดุเหลือใช้ในครัวเรือนและเกษตรกรรมมาผลิตพลังงาน
แนวทางพัฒนาพลังงานทดแทนในภาคครัวเรือน
1. พลังงานแสงอาทิตย์
o Solar Rooftop
ส่งเสริมการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในครัวเรือน
o ระบบพลังงานแสงอาทิตย์แบบ Off-Grid
เหมาะสำหรับพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง
2. พลังงานชีวมวลและชีวภาพ
o การผลิตก๊าซชีวภาพ (Biogas)
นำเศษอาหารและขยะอินทรีย์ในครัวเรือนมาผลิตก๊าซชีวภาพใช้สำหรับหุงต้ม
o การใช้เชื้อเพลิงชีวมวล
ใช้เศษวัสดุจากการเกษตร เช่น เศษไม้และเปลือกพืช เป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือน
3. การจัดการพลังงานในครัวเรือน
o ติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน
เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าฉลากเบอร์ 5 และหลอดไฟ LED
o ระบบจัดเก็บพลังงาน (Energy Storage)
ใช้แบตเตอรี่กักเก็บพลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์เพื่อใช้งานในช่วงเวลากลางคืน
แนวทางพัฒนาพลังงานทดแทนในภาคเกษตรกรรม
1. พลังงานแสงอาทิตย์
o ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์
ใช้แผงโซลาร์เซลล์ในการสูบน้ำสำหรับการชลประทาน
o โรงเรือนเกษตรพลังงานแสงอาทิตย์
ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือน
2. พลังงานชีวมวล
o การใช้ของเสียทางการเกษตร
นำฟางข้าว เปลือกข้าว หรือกากอ้อยมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง
o โรงงานผลิตก๊าซชีวภาพในฟาร์ม
ใช้มูลสัตว์และของเสียจากฟาร์มในการผลิตพลังงานไฟฟ้าและความร้อน
3. พลังงานลม
o กังหันลมขนาดเล็ก
ใช้กังหันลมในพื้นที่ที่มีลมแรงสำหรับการผลิตไฟฟ้าในฟาร์ม
4. การจัดการทรัพยากรพลังงานในฟาร์ม
o ระบบบริหารจัดการพลังงานในฟาร์ม (Farm Energy Management)
สนับสนุนเทคโนโลยีที่ช่วยควบคุมและลดการใช้พลังงาน เช่น การใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดพลังงาน
ตัวอย่างความสำเร็จจากการดำเนินแผน AEDP 2018
กรณีศึกษา
1. โครงการ Solar Pump ในพื้นที่เกษตรกรรม
o เกษตรกรในภาคอีสานติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์
o ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลงกว่า 70%
2. การผลิตก๊าซชีวภาพในฟาร์มปศุสัตว์
o ฟาร์มขนาดกลางในภาคเหนือผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์
o ลดการใช้แก๊สหุงต้มในฟาร์มได้ถึง 50%
3. ครัวเรือนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
o บ้านเรือนในจังหวัดชลบุรีติดตั้ง Solar Rooftop ขนาด 5 kW
o ลดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 2,500 บาทต่อเดือน
ประโยชน์ของแผน AEDP 2018 ต่อครัวเรือนและเกษตรกรรม
1. ลดต้นทุนพลังงาน
o ช่วยลดค่าไฟฟ้าและเชื้อเพลิงในครัวเรือนและฟาร์ม
2. เพิ่มรายได้เสริม
o ผลิตพลังงานส่วนเกินจากโซลาร์เซลล์หรือก๊าซชีวภาพขายให้กับระบบไฟฟ้าของรัฐ
3. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
o ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
4. เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานในท้องถิ่น
o ส่งเสริมการพึ่งพาตนเองในระดับชุมชนด้วยพลังงานที่ผลิตได้เอง
5. สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน
o สอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs โดยเฉพาะเป้าหมายที่เกี่ยวกับพลังงานสะอาดและการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
แผน AEDP 2018 เป็นกรอบการดำเนินงานที่เน้นการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนในภาคครัวเรือนและเกษตรกรรม เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การดำเนินมาตรการ เช่น การติดตั้ง Solar Rooftop การผลิตก๊าซชีวภาพ และการใช้พลังงานชีวมวล ช่วยให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
26 มิ.ย. 2568