ก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์

Last updated: 20 ม.ค. 2568  |  77 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์

  
บทความ: ก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ : เส้นทางเพื่อโลกที่ยั่งยืน

ดร.ศุภชัย ปัญญาวีร์, อ.กาญจนาวรรณ์ ปัญญาวีร์, อ.นันฐกานต์ กลิ่นสังข์, อ.อภิวัฒน์ ปิดตะ
บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ คอนเซอร์เวชั่น เทคโนโลยี่ จำกัด

ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา "ความเป็นกลางทางคาร์บอน" และ "สุทธิเป็นศูนย์" กลายเป็นคำที่คุ้นเคยในวงการสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งสองแนวคิดนี้เกี่ยวข้องกับความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศ เพื่อควบคุมอุณหภูมิโลกให้อยู่ในระดับที่สามารถรองรับได้ การบรรลุเป้าหมายนี้เป็นเรื่องท้าทาย เพราะต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิต การทำงานของอุตสาหกรรม และนโยบายของรัฐบาลต่างๆ

 


ความหมายของความเป็นกลางทางคาร์บอนและสุทธิเป็นศูนย์
  •  ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) คือการทำให้ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่ากับปริมาณที่ถูกดูดซับหรือลดลงผ่านวิธีการต่างๆ เช่น การปลูกต้นไม้ การใช้พลังงานหมุนเวียน หรือการซื้อเครดิตคาร์บอน วิธีการนี้ช่วยให้เกิดสมดุลระหว่างการปล่อยและการลดคาร์บอน แต่ไม่จำเป็นต้องปล่อยก๊าซเป็นศูนย์
  •  สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) เป็นแนวคิดที่ก้าวหน้าไปอีกขั้น เพราะนอกจากการทำให้คาร์บอนอยู่ในระดับเป็นกลางแล้ว ยังรวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทุกชนิดให้ใกล้เคียงศูนย์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เหลือเพียงปริมาณเล็กน้อยที่สามารถถูกชดเชยด้วยวิธีต่างๆ เช่น การดูดซับคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศ หรือการใช้เทคโนโลยีดักจับคาร์บอน

ทำไมสุทธิเป็นศูนย์จึงสำคัญ?
      การบรรลุเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์เป็นปัจจัยสำคัญในการจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้นเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปารีส การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิมากกว่า 1.5 องศา จะส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก ทั้งภัยแล้ง ไฟป่า น้ำท่วม และการละลายของธารน้ำแข็ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลก

เส้นทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและสุทธิเป็นศูนย์
1. การลดการใช้พลังงานฟอสซิล
   การลดการใช้ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติเป็นวิธีที่สำคัญในการลดคาร์บอน อุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกกำลังเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้โดยไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก

2. การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
   อาคารที่พักอาศัย อาคารธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถปรับปรุงระบบเพื่อใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การใช้เครื่องปรับอากาศที่ประหยัดพลังงาน ระบบไฟอัจฉริยะ หรืออุปกรณ์ที่ใช้พลังงานต่ำหรือมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยลดการใช้พลังงานได้

3. การสนับสนุนการปลูกป่าและการอนุรักษ์ระบบนิเวศ
   ต้นไม้และพืชสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศได้ การปลูกป่าและการอนุรักษ์ป่าไม้ที่มีอยู่แล้วช่วยเพิ่มการดูดซับคาร์บอน อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ

4. การลงทุนในเทคโนโลยีดักจับและจัดเก็บคาร์บอน
   เทคโนโลยีดักจับและจัดเก็บคาร์บอนเป็นนวัตกรรมที่มีศักยภาพในการช่วยลดก๊าซคาร์บอนจากอุตสาหกรรมและการผลิตพลังงาน แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่การลงทุนในเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยออกมาได้ในระยะยาว

5. การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต
   การลดการบริโภค การใช้ขนส่งสาธารณะ การลดการใช้พลาสติก และการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นตัวอย่างของการช่วยลดการปล่อยคาร์บอน นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคยังช่วยให้ผู้ผลิตและบริษัทต่างๆ หันมาผลิตสินค้าและบริการที่ยั่งยืนมากขึ้น

ความร่วมมือเพื่อบรรลุเป้าหมาย
     การก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์เป็นเรื่องที่ไม่สามารถสำเร็จได้เพียงแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะต้องอาศัยทุกคน ตั้งแต่รัฐบาล ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และประชาชนทั่วไปต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ ซึ่งบริษัทใหญ่ทั่วโลกเริ่มตั้งเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคและนักลงทุนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม

สรุป
     การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและสุทธิเป็นศูนย์จะช่วยให้โลกมีอนาคตที่ยั่งยืนขึ้น ซึ่งเป็นความหวังที่เราสามารถส่งต่อให้คนรุ่นหลังได้ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องการความพยายามร่วมกันจากทุกภาคส่วน แต่หากเราทำได้สำเร็จ เราจะสามารถรักษาโลกให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี สะอาด และปลอดภัย ให้มนุษยชาติและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้อยู่อาศัยอย่างยั่งยืนต่อไป

 

                   


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้