บทความ : พลังงานที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยในอนาคต

Last updated: 1 ก.ค. 2568  |  7 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บทความ : พลังงานที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยในอนาคต

บทความ: พลังงานที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยในอนาคต

ดร.ศุภชัย  ปัญญาวีร์  อ. กิตติพงษ์  กุลมาตย์  อ. มนูญ  รุ่งเรือง

บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ คอนเซอร์เวชั่น เทคโนโลยี่ จำกัด

ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2568

                                                                                                                                                               

การพัฒนาพลังงานที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทยในอนาคตต้องสอดคล้องกับทรัพยากรธรรมชาติ สภาพภูมิอากาศ และความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การเลือกพลังงานที่เหมาะสมควรคำนึงถึงความมั่นคงทางพลังงาน การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น พลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือกจึงเป็นคำตอบที่สำคัญสำหรับประเทศไทยในยุคที่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

พลังงานที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย

1. พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy)

  • ความเหมาะสม:

      ประเทศไทยมีศักยภาพสูงด้านพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตร้อนและมีแสงแดดตลอดปี

  • การประยุกต์ใช้:

      o Solar Rooftop: ผลิตไฟฟ้าในครัวเรือนหรืออาคารพาณิชย์
      o Solar Farm: ผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าจากฟอสซิล
      o Solar Pump: ใช้ในภาคเกษตรกรรมสำหรับระบบชลประทาน

  • ศักยภาพ:

      o ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล
      o ส่งเสริมการใช้พลังงานในพื้นที่ชนบท

2. พลังงานชีวมวล (Biomass Energy)

  • ความเหมาะสม:

      ประเทศไทยมีเศษวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร เช่น ฟางข้าว กากอ้อย เปลือกไม้ และขยะอินทรีย์

  • การประยุกต์ใช้:

      o ผลิตไฟฟ้าและความร้อนในโรงงานอุตสาหกรรม
      o ใช้ในฟาร์มและชุมชนชนบทเพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงนำเข้า

  • ศักยภาพ:

      o ลดปริมาณของเสียและเพิ่มรายได้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
      o สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

3. พลังงานชีวภาพ (Biogas)

  • ความเหมาะสม:

      เหมาะสำหรับฟาร์มปศุสัตว์ โรงงานอาหาร และครัวเรือนที่มีเศษอาหารหรือมูลสัตว์

  • การประยุกต์ใช้:

      o ผลิตก๊าซชีวภาพสำหรับหุงต้มในครัวเรือน
      o ใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม

  • ศักยภาพ:

      o ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
      o ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ

4. พลังงานลม (Wind Energy)

  • ความเหมาะสม:

      แม้ศักยภาพพลังงานลมในประเทศไทยจะไม่สูงเท่าประเทศในแถบยุโรป แต่บางพื้นที่ เช่น บริเวณชายฝั่งทะเล มีความเร็วลมที่เหมาะสม

  • การประยุกต์ใช้:

      o กังหันลมขนาดเล็กในพื้นที่ชนบท
      o ฟาร์มกังหันลมในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง

  • ศักยภาพ:

      สนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน

5. พลังงานน้ำ (Hydropower)

  • ความเหมาะสม:

      ประเทศไทยมีเขื่อนและแหล่งน้ำที่สามารถผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กได้

  • การประยุกต์ใช้:

      o เขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนภูมิพล
      o โครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กในพื้นที่ชนบท

  • ศักยภาพ:

      o ผลิตไฟฟ้าเสริมในระบบพลังงานของประเทศ

6. พลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Energy)

  • ความเหมาะสม:

      พลังงานไฮโดรเจนเป็นแหล่งพลังงานที่สะอาดและเหมาะกับการใช้งานในอนาคต

  • การประยุกต์ใช้:

      o ใช้ในอุตสาหกรรมหนักและระบบขนส่ง
      o ใช้เป็นแหล่งพลังงานสำรองในโรงไฟฟ้า

  • ศักยภาพ:

      o สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในระยะยาว
 
7. พลังงานขยะ (Waste-to-Energy)

  • ความเหมาะสม:

      ประเทศไทยมีปริมาณขยะที่สามารถนำมาผลิตพลังงานได้ เช่น ขยะชุมชนและขยะอุตสาหกรรม

  • การประยุกต์ใช้:

      o ผลิตไฟฟ้าหรือความร้อนจากขยะ
      o ลดปริมาณขยะที่ต้องฝังกลบ

  • ศักยภาพ:

      o ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและสร้างรายได้จากการจัดการขยะ

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเลือกพลังงาน

1. ทรัพยากรธรรมชาติ:

      o การใช้พลังงานต้องสอดคล้องกับทรัพยากรที่มีในประเทศ เช่น ชีวมวลและพลังงานแสงอาทิตย์

2. เทคโนโลยีและนวัตกรรม:

      o การพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของพลังงานทดแทน

3. นโยบายและการสนับสนุนจากรัฐบาล:

      o มาตรการส่งเสริม เช่น เงินอุดหนุนหรือการลดภาษี จะช่วยผลักดันการใช้พลังงานทดแทน

4. ความต้องการพลังงานในอนาคต:

      o  การคาดการณ์ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นต้องนำมาพิจารณาในการวางแผน

ข้อดีของการพัฒนาพลังงานที่เหมาะสมกับประเทศไทย

1. ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงนำเข้า:

      o  ลดการใช้พลังงานฟอสซิลที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

2. เสริมสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น:

      o  การใช้ชีวมวลหรือก๊าซชีวภาพช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรและชุมชน

3. ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม:

      o  ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง

4. สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน:

      o  สนับสนุนการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานในระยะยาว

สรุป

ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกที่เหมาะสม เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ และพลังงานจากขยะ การพัฒนาพลังงานเหล่านี้ต้องมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรในประเทศอย่างคุ้มค่า สนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนจากรัฐบาลและการพัฒนานวัตกรรมพลังงานจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างระบบพลังงานที่ยั่งยืนในอนาคต

อ่านต่อได้ที่นี่


 



Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้