ระบบผนัง EIFS (Exterior Insulation and Finish System) ระบบฉนวนกันความร้อนและตกแต่งภายนอกอาคาร

ระบบผนัง EIFS (Exterior Insulation and Finish System) – ระบบฉนวนกันความร้อนและตกแต่งภายนอกอาคาร

ดร.ศุภชัย  ปัญญาวีร์  อ. กาญจนาวรรณ์  ปัญญาวีร์  อ. ปฏิญญา  จีระพรมงคล  

บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ คอนเซอร์เวชั่น เทคโนโลยี่ จำกัด

ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2568

บทนำ

ระบบผนัง EIFS (Exterior Insulation and Finish System) เป็นระบบฉนวนและตกแต่งภายนอกอาคารที่ช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพพลังงาน และ ความสวยงาม ของอาคาร โดยสามารถช่วยลด การสูญเสียพลังงานความร้อน จากภายในอาคารและช่วยปรับปรุง ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ได้อย่างดี

ระบบนี้เริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายใน ยุโรปและอเมริกาเหนือ และได้รับความนิยมมากขึ้นในหลายประเทศ ทั่วโลก โดยเฉพาะในอาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม และโครงการก่อสร้างที่ต้องการเพิ่ม ฉนวนกันความร้อนและลดต้นทุนด้านพลังงาน

ระบบ EIFS คืออะไร?

EIFS (Exterior Insulation and Finish System) เป็น ระบบผนังฉนวนภายนอก และการตกแต่งผิวที่ประกอบด้วย ฉนวนโฟมโพลีสไตรีน (EPS) หรือ XPS และ วัสดุตกแต่งพื้นผิว เช่น ปูนฉาบพิเศษที่สามารถกันน้ำและระบายอากาศได้

หน้าที่หลักของระบบ EIFS

• ป้องกัน ความร้อนจากภายนอกเข้าสู่อาคาร
• ลดการสูญเสีย พลังงานความเย็น ภายในอาคาร
• เพิ่มความสวยงามให้กับ อาคารพาณิชย์และที่พักอาศัย
• ลดภาระงานของ ระบบปรับอากาศ ช่วยประหยัดพลังงาน

องค์ประกอบของระบบ EIFS

ระบบ EIFS ประกอบด้วย 5 ชั้นหลัก ดังนี้:

 1. ชั้นรองพื้น (Substrate)

• เป็นพื้นผิวเดิมของอาคาร เช่น ผนังปูนซีเมนต์ หรือโครงสร้างอาคาร

• ใช้วัสดุ EPS (Expanded Polystyrene) หรือ XPS (Extruded Polystyrene) ซึ่งเป็นฉนวนกันความร้อนหลักของระบบ
• ติดตั้งด้วยกาวพิเศษหรือหมุดยึดเพื่อความมั่นคง

• ใช้ปูนฉาบบางพิเศษผสมเส้นใยแก้ว (Glass Fiber Reinforced Mesh)
• เสริมความแข็งแรงให้กับระบบ ลดการแตกร้าวของผนัง

4. ชั้นปูนฉาบตกแต่ง (Finish Coat)

• ใช้วัสดุตกแต่งผิว เช่น อะคริลิก หรือซิลิโคน เพื่อเพิ่มคุณสมบัติกันน้ำและให้ผิวสัมผัสที่หลากหลาย
  
• สามารถเลือกสีและลวดลายได้ตามต้องการ
  

• ·ป้องกันน้ำซึมเข้าสู่ผนังและช่วยให้อาคารมีระบบระบายอากาศที่ดี

ประเภทของระบบ EIFS

ระบบ EIFS สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

1. EIFS ที่มีระบบระบายน้ำ (EIFS with Drainage)

• มี ช่องทางระบายน้ำ อยู่ระหว่างฉนวนโฟมและผนังอาคาร
  
• ป้องกันความชื้นสะสมภายในระบบ ลดปัญหา เชื้อรา และ การแตกร้าว
• เหมาะสำหรับอาคารที่มีฝนตกชุกหรือมีความชื้นสูง

2. EIFS แบบดั้งเดิม (Traditional EIFS or Barrier EIFS)

• ไม่มีระบบระบายน้ำแยกจากกัน
• ใช้ในสภาพอากาศแห้งที่มี ฝนตกน้อย
  
• เหมาะสำหรับอาคารที่ต้องการ ลดต้นทุนการติดตั้ง
  
  ข้อดีของระบบ EIFS

      1. ประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพฉนวนกันความร้อน
            -  ลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่อาคาร ทำให้ เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง
            -  สามารถช่วยลด ค่าไฟฟ้าได้มากถึง 30-50%

      2. น้ำหนักเบา ลดภาระโครงสร้าง
            -  วัสดุฉนวน EPS หรือ XPS มีน้ำหนักเบา ไม่เพิ่มภาระให้กับโครงสร้างอาคาร

      3. ป้องกันเสียงรบกวน
            -  โฟมฉนวนในระบบ EIFS สามารถ ลดเสียงจากภายนอก ทำให้อาคารเงียบและน่าอยู่ขึ้น

      4. ป้องกันน้ำและความชื้น
            -  สามารถป้องกัน น้ำซึมเข้าสู่อาคาร และป้องกัน เชื้อรา ได้ดี

      5. ปรับแต่งดีไซน์ได้หลากหลาย
            -  สามารถเลือกพื้นผิวและสีได้ตามความต้องการ
            -  สามารถตกแต่งให้เป็น ผนังสไตล์อิฐ ปูนเปลือย หรือลวดลายหินธรรมชาติ

ข้อควรระวังในการใช้ระบบ EIFS

• หากติดตั้งไม่ดีอาจเกิดปัญหา น้ำซึมและรั่วซึม ได้

2. ไม่ควรใช้กับพื้นที่ที่มีแรงกระแทกสูง

•  ผนัง EIFS อาจไม่ทนต่อแรงกระแทกเท่าผนังคอนกรีต

3. ต้องเลือกวัสดุฉนวนที่มีคุณภาพ

• ควรใช้ EPS หรือ XPS ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

การเปรียบเทียบ EIFS กับระบบผนังแบบอื่น

ตัวอย่างการใช้งาน EIFS ในอาคาร

• ใช้ลดต้นทุนการใช้พลังงาน ลดความร้อนในอาคาร

2. คอนโดมิเนียมและที่พักอาศัย

• ใช้เพิ่มความสวยงามของอาคารและปรับปรุงฉนวนกันเสียง

3. ห้างสรรพสินค้าและร้านค้า

• สามารถตกแต่งภายนอกให้มีดีไซน์ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์

4. โรงแรมและรีสอร์ท

• ใช้เพื่อเพิ่มความหรูหราและลดต้นทุนการใช้เครื่องปรับอากาศ

อ่านต่อได้ที่นี่