การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีบริหารจัดการในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ (Smart Farm)

Last updated: 30 ธ.ค. 2568  |  32 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีบริหารจัดการในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ (Smart Farm)

บทความ : การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีบริหารจัดการในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ (Smart Farm)
ดร.ศุภชัย  ปัญญาวีร์  อ.มนูญ  รุ่งเรือง  อ.อภิวัฒน์  ปิดตะ
บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ คอนเซอร์เวชั่น เทคโนโลยี่ จำกัด
ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2568
                                                                                                                                                               

บทนำ

การเลี้ยงสัตว์ถือเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ทั้งในเชิงการผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศและการส่งออก แต่ปัญหาที่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ต้องเผชิญคือ ต้นทุนการผลิตที่สูง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าสำหรับระบบระบายอากาศ ทำความเย็น แสงสว่าง หรือการสูบน้ำ อีกทั้งยังมีประเด็น สิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากฟาร์ม รวมถึงมาตรฐานด้านสวัสดิภาพสัตว์และความปลอดภัยอาหารที่เข้มงวดมากขึ้น

ดังนั้น แนวคิดการทำ ฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farm) โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยบริหารจัดการ จึงเป็นทางออกสำคัญที่ช่วยให้ฟาร์มเลี้ยงสัตว์สามารถลดการใช้พลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และก้าวไปสู่ความยั่งยืนได้

ความสำคัญของ Smart Farm

     1.  ลดต้นทุนการผลิต – พลังงานเป็นต้นทุนหลักในฟาร์ม เช่น ฟาร์มสุกรใช้ไฟฟ้าไปกับการระบายอากาศและควบคุมอุณหภูมิสูงกว่า 50% การใช้ระบบอัจฉริยะช่วยประหยัดพลังงานได้ 15–30%
     2.  สิ่งแวดล้อมและสังคม – เทคโนโลยีช่วยจัดการมูลสัตว์และน้ำเสีย ลดกลิ่นและมลพิษ พร้อมลดการปล่อย CO₂ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs
     3.  คุณภาพผลผลิต – การควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสงสว่าง และอาหารน้ำอย่างแม่นยำ ช่วยให้สัตว์เติบโตดี ลดอัตราการตาย และเพิ่มผลผลิตต่อหน่วย
     4.  มาตรฐานและตลาด – Smart Farm ทำให้ฟาร์มสอดคล้องกับมาตรฐาน GAP, ISO 50001, Animal Welfare และ Carbon Footprint ทำให้เข้าถึงตลาดสากลได้ง่ายขึ้น

เทคโนโลยีและนวัตกรรม Smart Farm

      IoT & Sensors: ติดตั้งเซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้น ก๊าซ (NH₃, CO₂) การใช้น้ำและพฤติกรรมสัตว์ → ข้อมูลเหล่านี้ส่งเข้าสู่ระบบวิเคราะห์แบบเรียลไทม์
      Automation & Smart Control: ระบบพัดลม แสงสว่าง และน้ำดื่มอัตโนมัติ เปิด–ปิดตามเงื่อนไขจริง ลดการใช้พลังงานเกินจำเป็น
      AI & EMS (Energy Management System): วิเคราะห์ข้อมูลพลังงาน คาดการณ์ความต้องการไฟฟ้า ปรับโหลดตามช่วงเวลา → ลดค่าไฟช่วงพีค
      พลังงานหมุนเวียน: เช่น Solar PV สำหรับไฟฟ้า Biogas จากมูลสัตว์ Battery Storage สำหรับเก็บพลังงาน → ลดการพึ่งพาไฟจากภายนอก
      Digital Twin & Blockchain: จำลองโรงเรือนก่อนลงทุนจริง และสร้างความโปร่งใสในการตรวจสอบย้อนกลับ → เพิ่มความน่าเชื่อถือของผลผลิต
      Mobile & App-based Control: ผู้จัดการฟาร์มสามารถตรวจสอบและควบคุมระบบได้จากทุกที่ทุกเวลา

ตัวอย่างกรณีศึกษา

      ฟาร์มสุกรอัจฉริยะ: ใช้ IoT ควบคุมระบบระบายอากาศ + Solar PV → ลดค่าไฟ 20% ROI 3 ปี
      ฟาร์มโคนม: ติดตั้งระบบรีไซเคิลความร้อนจากเครื่องรีดนม + EMS → ประหยัดพลังงาน 15% และลดการปล่อย CO₂ 10 ตัน/ปี
      ฟาร์มไก่ไข่: ใช้ระบบให้อาหารและน้ำอัตโนมัติ + Smart Lighting → ผลผลิตเพิ่มขึ้น 8% และลดพลังงาน 12%

สรุปและข้อเสนอแนะ

การนำ นวัตกรรมและเทคโนโลยี Smart Farm มาใช้ ไม่เพียงแต่ช่วย ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต แต่ยังตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานสากล ฟาร์มที่เริ่มต้นควรเน้น “Quick Win” เช่น เปลี่ยนหลอดไฟ LED ใช้ IoT Sensors และระบบอัตโนมัติ จากนั้นค่อยต่อยอดสู่ AI, EMS และพลังงานหมุนเวียน ภาครัฐควรสนับสนุน เงินกู้สีเขียว มาตรการภาษี และโครงการนำร่อง เพื่อกระตุ้นการลงทุน ขณะที่สถาบันการศึกษาและนักวิจัยควรพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับฟาร์มไทยมากขึ้น

กล่าวโดยสรุป Smart Farm คือก้าวสำคัญสู่การทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ประหยัดพลังงาน ยั่งยืน และแข่งขันได้ในตลาดโลก

ตารางสรุป เทคโนโลยี Smart Farm กับผลลัพธ์การประหยัดพลังงาน

อ่านต่อได้ที่นี่

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้